![]() |
เงินออมเพื่อการศึกษา |
“ลูก” คือสิ่งที่เติมเต็มให้ครอบครัวสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อนาคตที่ดีของลูกขึ้นอยู่กับความพร้อมของครอบครัวในด้านต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการอบรมเลี้ยงดู การให้ความรัก ความอบอุ่น
และการให้การศึกษาในระดับต่างๆ ที่ เหมาะสม
ดังนั้นการวางแผนการศึกษาลูก ออมเงินเพื่อลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ทั้งหลาย
เพราะถือเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อปูพื้นฐานการเรียนรู้ให้ลูกเติบใหญ่
สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในอนาคต
4 ขั้นตอน วางแผนการศึกษาเพื่อลูก
ขั้นที่ 1 เลือกแนวทางการศึกษา
สถานศึกษาในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ
ซึ่งมีจุดเด่นด้านการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ หรือการส่งไปเรียนต่างประเทศ
ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากการค้นหาข้อมูลสถานศึกษา หลักสูตร
สภาพแวดล้อมและความสะดวกในการเดินทาง
โดยพ่อแม่ควรเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานภาพทางการเงินของครอบครัว
ขั้นที่ 2 ประมาณการค่าใช้จ่าย
พ่อแม่ควรประมาณค่าใช้จ่ายตลอดทั้งหลักสูตร
ไม่ว่าจะเป็นค่าเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้า เป็นต้น
เพื่อช่วยให้สามารถออมเงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของลูก
ขั้นที่ 3 วางแผนเก็บออมเงิน
เงินออมเพื่อการศึกษา บางครอบครัว
มักมองข้ามการออมเงินเพื่อการศึกษาลูก
เพราะคิดว่าเมื่อถึงเวลาจ่ายค่าเทอมค่อยนำเงินเก็บที่มีไปจ่าย
ซึ่งวิธีนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก เพราะหากเงินออมไม่เพียงพอ
หรือคนในครอบครัวประสบเหตุไม่คาดฝัน มีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน
อาจส่งผลกระทบต่อแผนการศึกษาของลูก
ดังนั้น
ควรวางแผนการออมเงินล่วงหน้าเพื่อเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
โดยอาจเลือกทยอยออมเงินในแต่ละระดับชั้นการศึกษา
เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป
และการเลือกการออมเงินไว้ในบัญชีเงินฝากเพียงอย่างเดียว จะทำให้พ่อแม่มีภาระที่ต้องเก็บเงินจำนวนมากต่อเดือน
เพราะเงินฝากให้ผลตอบแทนต่ำ ดังนั้นจึงควรเลือกกระจายการลงทุนทั้งในเงินฝาก
ตราสารหนี้ หุ้น และกองทุนรวม เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างการวางแผนการออม
ปัจจุบัน ลูกอายุ 3 ปี เริ่มวางแผนการออมสำหรับระดับประถมในโรงเรียนเอกชน
จนจบปริญญาโท แบบทยอยออม โดยมีการประมาณการค่าเทอมปรับเพิ่มขึ้นปีละ 5%
และนำเงินออมไปลงทุนในกองทุนรวมผสมที่ได้รับผลตอบแทน 5% ต่อปี
เมื่อจะเริ่มต้นเรียนประถมวันแรก ในอีก 3
ปีข้างหน้า จะต้องมีเงินเก็บประมาณ 240,000 บาท ณ วันนี้ต้องเก็บเงินให้ได้ปีละ
76,130 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้น เมื่อลูกเข้าเรียนชั้นประถม
ก็ทำการเก็บเงินให้เพียงพอกับค่าเทอมในระดับมัธยมต่อไป โดยจะต้องเก็บเงินปีละ
176,421 บาท เป็นระยะเวลา 6 ปี ทำการเก็บเงินแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จนกว่าลูกจะเริ่มเรียนในระดับปริญญาโท
สิ่งสำคัญที่สุดในการออมเงินวิธีนี้ คือ
ต้องมีวินัยในการลงทุน ซึ่งสามารถเลือกใช้บริการวางแผนการลงทุนอัตโนมัติ (Auto
Investment Plan) ที่ระบบจะอำนวยความสะดวกในการตัดเงินจากบัญชี
ไปลงทุนในกองทุน ตามจำนวนเงิน และวันที่สามารถกำหนดได้เอง
ขั้นที่ 4 ประกันอนาคตลูกด้วยการทำประกัน
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ถึงแม้จะมีการวางแผนออมเงินเพื่อการศึกษาลูกไว้แล้ว
แต่ว่าเงินที่จะนำไปออมมาจากรายได้ในการทำงาน ซึ่งถ้าหากพ่อแม่เสียชีวิต
หรือทุพพลภาพ ก็จะขาดรายได้ที่จะนำมาใช้ในการออมเงิน
ทำให้แผนการศึกษาของลูกสะดุดกลางคัน ดังนั้นการทำการประกันชีวิตจะช่วยลดความเสี่ยง
โดยเลือกทำประกันอนาคตลูก ประกันเพื่อการศึกษาบุตรที่มีทุนประกันเท่ากับค่าเทอมของลูก
และเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมการยกเว้นการชำระเบี้ย
หากผู้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ
โดยที่บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้ชำระเบี้ยให้แทน ทำให้ไม่เป็นภาระกับลูก
และลูกก็ยังได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์ตามกรมธรรม์หลักเท่าเดิม
การวางแผนการศึกษา จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่พ่อแม่ควรเริ่มการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ
เพื่อที่จะได้มั่นใจได้ว่าลูกของท่านจะมีอนาคตทางการศึกษาที่ดีตามที่คุณวางแผนไว้
ประกันเพื่อการศึกษาบุตร ที่น่าสนใจ https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/our-products/education-plan/?Category=education
ประกันเพื่อการศึกษาบุตร ที่น่าสนใจ https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/our-products/education-plan/?Category=education
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น